วันพุธที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

การย้อนเวลา

มุมมองการย้อนเวลา
หลายๆ ทฤษฎี หลายๆ แนวคิด ต่างก็มีมุมมองเรื่องเวลาที่แตกต่างกันไป ในมุมมองส่วนตัวมองว่า เวลาเป็นสิ่งที่เป็นเนื้อสารของจักรวาลทั้งหมด โดยมีปัจจัยต่างๆเช่น อวกาศ แสง ความมืด อนุภาคต่างๆ เป็นของผสมในเนื้อสารของเวลา หากให้สิ่งทั้งหลายหยุดนิ่งและเปลี่ยนแปลงไปในบางขณะเวลาต่อมาก็ให้เปลี่ยนแปลงวกกลับไปสู่สภาพเดิมก็ไม่ได้ทำให้เวลาหยุดหรือเปลี่ยนแปลงไปตามสภาวะนั้น เวลายังคงทำหน้าที่ของมันไปเรื่อยๆ หากเรานึกถึงตอนที่เรายังไม่มีเงินเวลาก็ยังคงมีอยู่เสมอ ต่อมาเมื่อหาเงินได้แล้วเวลามันก็เดินของมันไปแล้ว นอกจากนี้ยังมองว่าอวกาศไม่ว่าจะมีแล้วหรือยังไม่มี เวลามันก็มีของมันอยู่แล้ว การนำเอาอวกาศมารวมกับเวลาจนกลายเป็นกาลอวกาศจึงเป็นสิ่งที่ต้องนำมาขบคิดว่าเอามารวมกันได้ยังไงมีอะไรสนับสนุนได้บ้าง จะบอกว่าความโค้งอวกาศที่เกิดจากแรงโน้มถ่วงกระนั้นหรือ เพราะมองว่าถึงแม้ไม่มีแรงโน้มถ่วง หรือ ความโค้งของอวกาศ เวลามันก็มีของมันอยู่แล้ว แรงโน้มถ่วง ความโค้งของอวกาศ และจุดสังเกตุของเราต่างหากที่เป็นของผสมในเนื้อสารของเวลา
หากเราอยู่ในห้องที่มืดสนิทมองไม่เห็นอะไรเลย ณ ช่วงที่เราอยู่ในความมืดนั้น เวลาไม่ได้หยุดเลยเพียงแต่เราจับต้องหรือสัมผัสเวลาไม่ได้ แต่เมื่อเราเปิดไฟฉายในมือขึ้นมาความสว่างจึงเกิดขึ้น ซึ่งไม่ได้หมายความว่าเวลาก่อนหน้านั้นมันไม่มี โดยคิดไปว่าเวลามันเพิ่งมีตอนที่มีแสงสว่าง แต่เวลามันมีของมันอยู่ก่อนแล้วต่างหาก กรณี การะเบิดครั้งใหญ่ (บิ๊กแบง) หรือ การเกิดหลุมดำ ก็เช่นเดียวกัน มองว่าเวลาไม่เริ่มต้น ณ จุดนี้ หากแต่เวลามันมีของมันอยู่ก่อนแล้วเสมอ ดังกรณีเปิดไฟฉายในห้องมืดที่กล่าวมาแล้ว (มองว่า การระเบิดครั้งใหญ่ และ หลุมดำ ก็เป็นของผสมในเนื้อสารของเวลา)
การที่เอาแสงสว่างมาเป็นเครื่องมือโดยเปรียบเทียบความเร็วแสงเพื่อหาแนวทางที่เป็นไปได้ที่จะย้อนเวลาไปยังอดีตจึงน่าขบคิดอีกเช่นกัน เพราะเวลาไม่เคยหยุดนิ่ง และเป็นสิ่งที่มีปัจจัยทั้งหมดเป็นเนื้อสาร
หากเรานำน้ำเชื่อมาผ่านกรรมวิธีการต้มในห้องที่สามารถควบคุมได้อย่างเหมาะสม เมื่อเวลาผ่านไป น้ำจะระเหยไปยังภาชนะที่เราใช้กักเก็บ จะเหลือเกล็ดน้ำตาล ในเวลาต่อมาเราเอาน้ำที่กักเก็บไว้มาผสมกับเกล็ดน้ำตาลก็จะได้เป็นน้ำเชื่อมตามเดิม แต่อย่าลืมว่าเวลาได้ใช้เพิ่มไปเรื่อยๆ ไม่ได้หยุดเลย สิ่งที่เกิดขึ้นจึงน่าจะเป็นการวนกลับไปจุดเดิมมากกว่าเพราะเวลาได้จัดสรรปัจจัยเหล่านั้นไปแล้วซึ่งต่างเวลากันบนพื้นฐานของเวลาที่ไม่เคยหยุดนิ่ง
หากเรามีฟิล์มถ่ายรูปหนึ่งชิ้นเราอัดรูปไปแล้ว วันต่อมาเรานำฟิล์มเดิมมาอัดรูปอีก รูปที่ได้จะเสมือนรูปเดิม ในขณะที่เวลาได้จัดสรรปัจจัยต่างๆ ในการอัดรูปแต่ละครั้งไปแล้ว และเวลาก็ได้เพิ่มขึ้นแล้ว
ในมุมมองส่วนตัวจึงคิดว่า การย้อนเวลาจึงไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะเวลาไม่สามารถย้อนกลับได้ และเวลาเป็นเอกเทศไม่ขึ้นตรงกับสิ่งใดๆ ปัจจัยอื่นๆ ต่างหากที่น่าจะเป็นของผสมในเนื้อสารของเวลา
ความคิดเห็นนี้เป็นเพียงมุมมองส่วนตัว เพียงหวังว่าทุกท่านที่ได้อ่านจะเข้ามาถกประเด็นและแบ่งปันความรู้ให้กับผู้เขียนในครั้งนี้

วันจันทร์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

กึ๋นไก่หมักน้ำปลา

กึ๋นไก่หมักน้ำปลา
กึ๋นไก่เป็นอาหารที่ให้โปรตีนสูงอีกประเภทหนึ่งที่มีราคาไม่แพง มีความอร่อยเฉพาะตัว ทำอาหารได้หลายอย่างไม่ว่าจะเป็นการทอด, ย่าง, ต้มยำ, แกง หรือ ผัด วันนี้เราจะนำกึ๋นไก่มาหมักน้ำปลาเพื่อทอดเป็นอาหารในครอบครัว โดยมีวิธีทำง่ายๆ ดังนี้
อุปกรณ์
มีด, เขียง, ถ้วยกระเบื้อง หรือ เซรามิก หรือ ภาชนะอื่นใดที่เป็นสเตนเลส (ไม่แนะนำให้ใช้ภาชนะที่เป็นอลูมิเนียม หรือ พลาสติก) ขนาดพอเหมาะในการหมัก, แผ่นพลาสติกใสที่สามารถครอบปิดภาชนะหมักได้ และเทปกาว
วัตถุดิบ
กึ๋นไก่สดที่ผ่าข้างแล้ว 0.5 กิโลกรัม, กระเทียมสด และน้ำปลา (แนะนำให้ใช้น้ำปลาคุณภาพดีที่หมักและทำมาจากปลาจะให้มีกลิ่นหอมน่ารับประทานซึ่งหาซื้อได้ทั่วไป)
วิธีการทำ
ใช้มีดขูดเอามันที่ติดรอบๆ กึ๋นออกให้หมด ขูดเอาผนังด้านในและเศษอาหารภายในออกให้หมด  นำกึ๋นไก่มาล้างให้สะอาด แล้ววางในตะแกรงเพื่อให้สะเด็ดน้ำ บุบกระเทียมให้แตกแล้วแกะเอาเปลือกกระเทียมออก เตรียมน้ำปลาสำหรับใช้
นำกึ๋นไก่ที่เตรียมแล้วมาใส่ภาชนะ ใส่กระเทียม ใส่น้ำปลา คลุกเคล้าให้เข้ากัน  นำแผ่นพลาสติกใสมาคลุมปิดภาชนะให้มิดชิด แล้วติดด้วยแผ่นเทปกาว 3-4 จุดเพื่อป้องกันหลุด ทิ้งไว้ในประมาณ 30 นาที่ (อุณหภูมิห้องอย่าให้โดนแสงแดด) หลังจากนั้นนำเข้าแช่ตู้เย็น (ห้ามแช่ช่องฟรีซ) เพื่อใช้ทอดรับประทานในวันต่อไป
การทอด
นำ กึ๋นไก่หมักน้ำปลา มาทอดในน้ำมันที่ความร้อนปานสูงประมาณ 5 นาที ลัวปรับระดับความร้อนลงที่ระดับปานกลาง (น้ำมันให้มีปริมาณมากพอสมควร คือ ท้วมชิ้นกึ๋นไก่ที่จะทอด ในการทอดต้องระวังน้ำมันจะกระเด็นใส่) เมื่อทอดจนสุกมีลักษณะกรอบนอกนุ่มในดีแล้วก็ตักมาวางในตระแกรงสะเด็ดน้ำมันก็สามารถนำไปรับประทานได้
ข้อแนะนำ
- ไม่ควรใส่เกลือ หรือ ผงชูรส หรือ น้ำตาล ในการทำ กึ๋นไก่หมักน้ำปลา เพราะในน้ำปลามี เกลือ ผงชูรส และน้ำตาลอยู่แล้ว
- ไม่ควรใส่ซอสปรุงรสในการหมัก เพราะจะไปตัดกลิ่นหอมอร่อยของน้ำปลา และเวลาทอดจะมีคราบติดชิ้นกึ๋นไก่ทำให้ดูไม่น่ารัปประทาน
- การใส่น้ำปลาที่ไม่ได้บอกปริมาณเอาไว้ ก็ควรจะใส่ในปริมาณที่คาดว่าทั่วถึงกับปริมาณกึ๋นไก่ที่จะหมัก หากพลั้งมือใส่น้ำปลาเยอะเกินไปก็ไม่ต้องกังวลใจ เพราะน้ำปลาจะดูดซึมเข้ากึ๋นไก่ได้ไม่ดีเหมือนเกลือ ซึ่งจะไม่ทำให้เค็มมากอยู่แล้ว
- เวลาทอดกึ๋นไก่ควรเคาะกระเทียมที่ใช้หมักออกให้หมดก่อนทอด เพื่อไม่ให้กระเทียมไหม้ก่อนกึ๋นไก่สุกซึ่งจะทำให้มีกลิ่นกระเทียมไหม้ไม่น่ารับประทาน

วันพุธที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

นมผงกับคนสูงวัย

นมผงกับคนสูงวัย
คนสูงวัยส่วนใหญ่มักจะทานอาหารได้น้อย เนื่องจาก การรับรู้รสชาดอาหารที่เสื่อมถอย การบดเคี้ยวอาหารที่ลำบากขึ้น ระบบการย่อยอาหารที่ลดต่ำลง และการเผาผลาญอาหารที่ลดลง ทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารน้อยลง รวมทั้งอุปนิสัยส่วนตัวในการเลือกทานอาหารของแต่ละท่านก็มีผลในการได้รับคุณค่าทางอาหารเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม เราก็สามารถเสริมคุณค่าทางอาหารให้กับผู้สูงวัยด้วยการให้ดื่มนมผงที่ใช้สำหรับเลี้ยงเด็กได้ เพราะนมผงที่ใช้สำหรับเลี้ยงเด็กจะมีสารอาหารแต่ละประเภทหลากหลายที่ร่างกายสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้เป็นอย่างดี ดังจะเห็นได้จากการใช้นมผงเลี้ยงเด็กไม่ส่งผลกระทบและยังสามารถช่วยให้เด็กเจริญเติบโตแข็งแรงได้นั่นเอง คนสูงวัยก็เช่นกัน สามารถดื่มนมผงสำหรับเลี้ยงเด็กเป็นการหารเสริมและบำรุงสุขภาพได้
ข้อแนะนำ
- คนสูงวัยบางท่านระบบย่อยอาจไม่ดีเท่าที่ควร การดื่มนมผงสำหรับใช้เลี้ยงเด็กอาจจะมีอาการท้องอืด หรือท้องร่วงได้ หากมดื่มแล้วมีอาการดังกล่าวก็ควรงดการดื่ม
- ผู้ป่วยที่อยู่ในช่วงฟักฟื้น หรือผู้ที่มีโรคประจำตัวสุขภาพร่างกายไม่แข็งแข็ง หากดื่มนมผงสำหรับใช้เลี้ยงเด็กเป็นประจำก็จะทำให้สุขภาพแข็งแรงและฟื้นจากอาการป่วยได้ดีขึ้น

- การเลือกซื้อนมผง ควรอ่านส่วนประกอบที่ด้านข้างผลิตภัณฑ์ให้ละเอียดเพื่อจะได้คุณค่าต่อสุขภาพตามที่ท่านต้องการ
- การออกกำลังกายอย่างพอเหมาะสม่ำเสมอ และการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ครบทุกหมู่เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด

วันจันทร์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

หมูสามชั้นหมักน้ำปลา

การทำอาหารเพื่อรับประทานในครอบครัวถือเป็นสิ่งที่สามารถทำได้ในชีวิตประจำวัน นอกจากจะได้รับประทานอาหารที่สะอาด อร่อย มีคุณค่า และทำได้ง่ายไม่ยุ่งยากแล้ว ยังเป็นการใช้เวลาว่างในการเสริมสร้างความสันพันธ์ที่ดีแก่สมาชิกในครอบครัว อีกทางหนึ่งด้วย หมูสามชั้นหมักน้ำปลา จึงเป็นรายการอาหารอีกประเภทหนึ่งที่สามารถทำกันเองได้โดยวิธีง่าย ๆ ดังนี้
อุปกรณ์
มีด, เขียง, ถ้วยกระเบื้อง หรือ เซรามิก หรือ ภาชนะอื่นใดที่เป็นสเตนเลส (ไม่แนะนำให้ใช้ภาชนะที่เป็นอลูมิเนียม หรือ พลาสติก) ขนาดพอเหมาะในการหมัก, แผ่นพลาสติกใสที่สามารถครอบปิดภาชนะหมักได้ และเทปกาว
วัตถุดิบ
หมูสามชั้นชิ้นใหญ่ตามขนาดที่ต้องการ, กระเทียมสด และน้ำปลา (แนะนำให้ใช้น้ำปลาคุณภาพดีที่หมักและทำมาจากปลาจะให้มีกลิ่นหอมน่ารับประทานซึ่งหาซื้อได้ทั่วไป)
วิธีการทำ
นำหมูสามชั้นมาล้างให้สะอาด ตัดเป็นชิ้นยาวประมาณ 5 นิ้ว หนาประมาณ 1.5 นิ้ว แล้ววางในตะแกรงเพื่อให้สะเด็ดน้ำ หลังจากนั้นใช้ปลายช้อนส้อมด้านที่เป็น 4 ซี่ แทงหมูสามชั้นที่เตรียมไว้ชิ้นละ 2-3 ที เพื่อให้มีช่องทางให้น้ำปลาซึมเข้าได้ง่ายและทั่วถึง (อย่าแทงหลายครั้งจนชิ้นหมูพรุนเพราะจะทำให้ชิ้นหมูไม่สวย) บุบกระเทียมให้แตกแล้วแกะเอาเปลือกกระเทียมออก เตรียมน้ำปลาสำหรับใช้
นำหมูที่เตรียมแล้วมาใส่ภาชนะ ใส่กระเทียม ใส่น้ำปลา คลุกเคล้าให้เข้ากัน  นำแผ่นพลาสติกใสมาคลุมปิดภาชนะให้มิดชิด แล้วติดด้วยแผ่นเทปกาว 3-4 จุดเพื่อป้องกันหลุด ทิ้งไว้ในประมาณ 30 นาที่ (อุณหภูมิห้องอย่าให้โดนแสงแดด) หลังจากนั้นนำเข้าแช่ตู้เย็น (ห้ามแช่ช่องฟรีซ) เพื่อใช้ทอดรับประทานในวันต่อไป
การทอด
นำ หมูสามชั้นหมักน้ำปลา มาทอดในน้ำมันที่ความร้อนปานกลาง (น้ำมันให้มีปริมาณมากพอสมควร คือ ท้วมชิ้นหมูที่จะทอด) พอหมูทอดสุกมีสีเหลืองอมน้ำตาลก็ตักมาวางในตระแกรงสะเด็ดน้ำมันก็สามารถนำไปรับประทานได้
ข้อแนะนำ
- ไม่ควรใส่เกลือ หรือ ผงชูรส หรือ น้ำตาล ในการทำ หมูสามชั้นหมักน้ำปลา เพราะในน้ำปลามี เกลือ ผงชูรส และน้ำตาลอยู่แล้ว
- ไม่ควรใส่ซอสปรุงรสในการหมัก เพราะจะไปตัดกลิ่นหอมอร่อยของน้ำปลา และเวลาทอดจะมีคราบติดชิ้นหมูทำให้ดูไม่น่ารัปประทาน
- การใส่น้ำปลาที่ไม่ได้บอกปริมาณเอาไว้ ก็ควรจะใส่ในปริมาณที่คาดว่าทั่วถึงกับปริมาณหมูที่จะหมัก หากพลั้งมือใส่น้ำปลาเยอะเกินไปก็ไม่ต้องกังวลใจ เพราะน้ำปลาจะดูดซึมเข้าเนื้อหมูได้ไม่ดีเหมือนเกลือ ซึ่งจะไม่ทำให้หมูหมักเค็มมากอยู่แล้ว
- เวลาทอดชิ้นหมูควรเคาะกระเทียมที่ใช้หมักออกจากชิ้นหมูให้หมดก่อนทอด เพื่อไม่ให้กระเทียมไหม้ก่อนหมูสุกซึ่งจะทำให้มีกลิ่นกระเทียมไหม้ไม่น่ารับประทาน